อาหารเสริมชาย คือ อะไร ช่วยให้แข็งตัวได้จริงหรือ

สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับผู้ชายหลายคน และทำให้สูญเสียความมั่นใจ ไปจนถึงชีวิตคู่มีปัญหานั่นก็คือ ปัญหาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือกามตายด้าน เชื่อว่าเป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ปัญหานี้ไม่ได้ร้ายแรงเสมอไป เพราะมีวิธีที่สามารถใช้แก้ปัญหาและรักษาอาการและสภาวะนี้ได้ หนึ่งในนั้นคือการใช้ยา และเพื่อไขข้อสงสัยของหลาย ๆ คนที่ยังลังเลว่าจะใช้ยาในการรักษาอาการนี้ของคุณดีหรือไม่ เรามารู้จักกันว่า คือ อะไร และช่วยให้แข็งตัวได้จริงหรือ

คือ อะไร

ยา ที่รู้จักและเคยได้ยินชื่อกันมานานนั้น จริง ๆ แล้วเป็นชื่อทางการค้า หรือชื่อยี่ห้อนั่นเอง ซึ่งตัวยาจริง ๆ ที่อยู่ใน ก็คือ ซิลเดนาฟิล จะออกฤทธิ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อในผนังหลอดเลือด และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังส่วนต่าง ๆของร่างกาย ซึ่งยาซิลเดนาฟิลที่ใช้ในการรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายนั้น จะเป็นยี่ห้อ ส่วนซิลเดนาฟิลอีกยี่ห้อหนึ่งคือ Revatio ซึ่งจะใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูงในปอด และเพิ่มความสามารถในการออกกำลังกายได้ แต่สำหรับคนที่ต้องการกินเพื่อรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้น ไม่ควรกินยา Revatio ร่วมด้วย เพราะอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ หรือเป็นอันตรายได้เมื่อใช้ร่วมกับ โดยเฉพาะยาในกลุ่มไนเตรต ที่ใช้สำหรับรักษาอาการเจ็บหน้าอกหรือปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ การใช้ซิลเดนาฟิลร่วมกับยาไนเตรตอาจทำให้ความดันโลหิตลดลงอย่างฉับพลันและรุนแรง จนอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

ช่วยให้อวัยวะแข็งตัวได้อย่างไร

คือ ยาที่มีตัวยาซิลเดนาฟิลเป็นส่วนประกอบหลัก ที่จะทำงานโดยการไปเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศชาย จึงทำให้การแข็งตัวของอวัยวะเพศแข็งตัวได้ง่ายขึ้น และได้นำมาใช้ในการรักษาโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าให้ผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จในผู้ชายประมาณ 2 ใน 3 ที่ใช้ยานี้ โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาทีในการเริ่มออกฤทธิ์ และใช้เวลาในการช่วยให้อวัยวะแข็งตัวได้ถึง 4 ชั่วโมง แต่สิ่งสำคัญคือ ยาจะใช้ได้ผลก็ต่อเมื่อมีการกระตุ้นทางเพศเท่านั้น ซึ่งปริมาณที่มีจำหน่ายจะมี 3 ขนาดคือ 25 มก. 50 มก. และ 100 มก. โดยทั่วไปขนาดเริ่มต้นที่แนะนำคือ 50 มก. แต่หากไม่ได้ผลในผู้ชายบางคน ก็สามารถเพิ่มขนาดยาเป็น 100 มก. ได้ และตามคำแนะนำของแพทย์ขนาดยา 25 มก. นั้น จะมีไว้สำหรับผู้ชายที่เคยลองขนาด 50 มก. แต่มีผลข้างเคียงมาก และต้องการลดผลข้างเคียงลง รวมถึงเป็นปริมาณที่เหมาะสมกับคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพบางอย่างด้วย

ใช้เวลานานแค่ไหนในการทำงาน?

เวลาเริ่มต้นโดยเฉลี่ยสำหรับการใช้ยาคือ 30-60 นาที และออกฤทธิ์ให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้นานประมาณ 4-6 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนัก และอาหารที่มีไขมันสูงก่อนกินยา เพราะจะทำให้ยาออกฤทธิ์ช้าลง และอย่างที่รู้ว่า คือ ยาที่ช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวเท่านั้น ไม่ใช่ยาที่ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศได้ เพราะฉะนั้น หากต้องการให้ได้ผลดี ก็ต่อเมื่อมีการกระตุ้นทางเพศเสียก่อน อวัยวะเพศถึงจะแข็งตัวได้ นอกจากนี้การกินมากกว่า 1 ครั้งต่อวันนั้นไม่ปลอดภัย และไม่ได้ส่งผลให้ยาทำงานเร็วขึ้นแต่อย่างใดด้วย หากคุณเป็นคนที่มีปัญหาในเรื่องเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และกำลังคิดที่จะกินเพื่อรักษาอาการ จะต้องรู้ไว้อย่างหนึ่งว่า คือ ยาที่ออกฤทธิ์เร็ว เมื่อกินยาเข้าไปแล้ว ยาจะเริ่มทำงานในเวลาประมาณ 30 นาที โดยปกติจะใช้เวลาเต็มที่ไม่เกิน 1 ชั่วโมงในการเริ่มออกฤทธิ์ เว้นเสียแต่ว่าจะกินอาหารมื้อหนักมาก่อน อาจจะส่งผลให้ยาออกฤทธิ์ช้าได้ นอกจากนี้อาจใช้ไม่ได้ผลเสมอไปในครั้งแรก และอาจต้องลองใช้ยานานถึง 4 วันเพื่อดูผลลัพธ์ทั้งหมดว่าสามารถแก้ปัญหานกเขาไม่ขันได้หรือไม่ และไม่ได้ผลสำหรับทุกคน ซึ่งหากใช้ไปแล้วยังไม่ได้ผลหลังจากลองไป 2-3 ครั้ง นั่นแปลว่าอาจต้องมีการเพิ่มปริมาณยา แต่ไม่ควรเกิน 100 มก. หากกินขนาด 100 มก. แล้วแต่ยังไม่ได้ผล ก็แนะนำให้ลองเปลี่ยนไปใช้ยาที่ช่วยรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศตัวอื่น ๆ

ยาที่ช่วยรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ มีอะไรบ้าง

1. Sildenafil ที่มีชื่อทางการค้าคือ () เป็นยี่ห้อที่คนรู้จักมากที่สุด เพราะผลิตออกมาเป็นตัวแรก และมีการใช้กันมานาน เป็นยาที่ได้ผลในการรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ประมาณ 57% และยังพบว่าใน 21% ของผู้ใช้คือ สามารถช่วยเพิ่มอารมณ์ท่างเพศได้ แต่ก็มีข้อบ่งใช้คือ ต้องกินก่อนมีเพศสัมพันธ์ 1 ชั่วโมง และควรกินตอนท้องว่าง จึงเหมาะกับเพศสัมพันธ์ที่มีการวางแผนล่วงหน้า และมีระยะเวลาในการออกฤทธิ์สั้นประมาณ 4 ชั่วโมง รวมถึงมีผลข้างเคียงที่ต่างจากยี่ห้ออื่นคือ มีผลต่อจอประสาทตา ทำให้มองเห็นภาพทุกอย่างเป็นสีฟ้า ซึ่งผลข้างเคียงนี้สามารถพบได้ประมาณ 3% และจะหายไปเองได้ภายในเวลา 2-3 ชั่วโมงหลังยาหมดฤทธิ์

2. Vardenafil มีชื่อทางการค้าคือ เลวิตร้า (Levitra) เป็นยาที่ใช้รักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ผลประมาณ 65% มีระยะเวลาในการออกฤทธิ์เท่ากับ คือ ประมาณ 4-6 ชั่วโมง แต่จะเริ่มออกฤทธิ์ได้เร็วกว่า 1 ชั่วโมง จะได้ผลดีคือควรกินพร้อมอาหาร หรือหลังอาหารทันที

3. Tadalafil มีชื่อทางการค้าคือ เซียลิส (Cialis) เป็นยาที่ค่อนข้างได้รับความนิยม เพราะออกฤทธิ์ยาวถึง 24-36 ชั่วโมง ทำให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจสำหรับผู้ชายที่มีปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวได้ไม่นาน โดยผลลัพธ์ที่ได้ผลดีประมาณ 45-50% และยาจะออกฤทธิ์ 1 ชั่วโมงหลังกินยาเข้าไป

4. Avanafil มีชื่อทางการค้าคือ สเตนดร้า (Stendra) เป็นยาตัวใหม่ที่เพิ่งได้รับการรับรองจากอเมริกาและยุโรป ว่าสามารถใช้ได้ผลในการรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ตัวยาจะออกฤทธิ์สั้นเท่ากับ แต่ออกฤทธิ์เร็วที่สุดในบรรยายาทั้ง 4 ตัว คือภายใน 15 นาทีหลังกินยาเข้าไป ส่วนผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ ปวดหัว คลื่นไส้ หน้าแดง ร้อนวูบวาบ เป็นต้น และห้ามใช้ในคนที่กินยาในกลุ่มยาไนเตรทเด็ดขาด เพราะจะทำให้ความดันโลหิตต่ำจนเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

ข้อควรระวังอื่น ๆ ในการใช้ยากลุ่ม

1. ยาสามารถลดการไหลเวียนของเลือดไปยังเส้นประสาทตา ทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างกะทันหันได้ แต่จะเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในคนที่กินซิลเดนาฟิล

2. อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ เพราะฉะนั้น หากคู่รักของคุณกำลังตั้งครรภ์ หรือวางแผนที่จะตั้งครรภ์

 อาจต้องระมัดระวังในการใช้ยานี้ หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

3. ไม่ควรใช้ยานี้กับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

4. ในระหว่างทำกิจกรรมทางเพศหากมีอาการเวียนหัวหรือคลื่นไส้ หรือมีอาการปวดชาที่หน้าอก แขน คอ หรือกราม ให้หยุดกินยาทันที และรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพราะนั่นหมายถึงอาจจะกำลังได้รับผลข้างเคียงที่ร้ายแรงของซิลเดนาฟิล

ก็ได้รู้กันไปแล้วว่ายา คือ อะไร และช่วยรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศของเราได้อย่างไรบ้าง ด้วยกลไกการออกฤทธิ์ของยา ทำให้และยาตัวอื่น ๆ ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด สามารถช่วยรักษาอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวไม่นานได้ ก็จะช่วยให้กิจกรรมทางเพศของคุณสามารถเกิดขึ้นได้ตามต้องการ ไม่ต้องทนกับปัญหานี้อีกต่อไป ใครที่กำลังสนใจจะกิน ก็ลองศึกษาให้ดีและเลือกตัวยาที่เหมาะกับตัวเอง รวมถึงหากมีโรคประจำตัว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ทางด้านร่างกาย ต้องทำตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัดด้วย